เมนู

อิติวุตตกะ ติกนิบาต


วรรคที่ 4


1. วิตักกสูตร


ว่าด้วยอกุศลวิตก 3 ประการ


[258] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้
สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อกุศลวิตก 3 ประการ 3 ประการเป็นไฉน
คือ วิตกประกอบด้วยการไม่ให้ผู้อื่นดูหมิ่นตน 1 วิตกประกอบด้วยลาภ
สักการะและความสรรเสริญ 1 วิตกประกอบด้วยความเอ็นดูในผู้อื่น 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย อกุศลวิตก 3 ประการนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
บุคคลผู้ประกอบแล้วด้วยการไม่ให้
ผู้อื่นดูหมิ่นตน ผู้หนักในลาภและสักการะ
มีปกติยินดีกับด้วยอำมาตย์ทั้งหลาย เป็น
ผู้ห่างไกลจากความสิ้นไปแห่งสังโยชน์
ภิกษุใดในธรรมวินัยนี้ ละบุตร ปศุสัตว์
การให้กระทำวิวาหะ และการหวงแหน
เสียได้ ภิกษุเช่นนั้น ๆ เป็นผู้ควรเพื่อจะ
บรรลุสัมโพธิญาณอันสูงสุด.

จบวิตักกสูตรที่ 1

วรรควรรณนาที่ 4


อรรถกถาวิตักกสูตร


ในวิตักกสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 4 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อกุสลา วิตกฺกา ความว่า วิตกทั้งหลายอันเกิดจากความ
เป็นผู้ไม่ฉลาด อธิบายว่า ได้แก่ มิจฉาวิตก. บทว่า อนวญฺญตฺติ ในบทว่า
อนวญฺญตฺติปฏิสํยุตฺโต นี้ ได้แก่การไม่ถูกดูหมิ่นเพราะความที่ตนไม่ถูกผู้อื่น
ดูหมิ่น คือ ไม่ถูกดูแคลน คือ อิจฉาจารที่เป็นไปแล้วอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ คน
เหล่าอื่นไม่พึงดูหมิ่นเรา ดังนี้ คือการเกี่ยวข้องอันประกอบด้วยการไม่ถูกดูหมิ่น
นั้น หรือวิตกอันปฏิสังยุตด้วยการไม่ดูหมิ่น ซึ่งปรารภการคลุกคลีนั้นเป็นไปแล้ว
เพราะฉะนั้น คำว่า อนวญฺญตฺติ นี้ เป็นชื่อของวิตกที่ผู้ดำรงอยู่ในอิจฉาจารให้
เป็นไปแล้ว เพราะต้องการความยกย่องว่า กระไรหนอ คนเหล่าอื่นทั้งคฤหัสถ์
และบรรพชิต จะไม่พึงเหยียดหยามเราให้ต่ำต้อย. บทว่า ลาภสกฺการสิโลก-
ปฏิสํยุตฺโต
ความว่า วิตกที่ประกอบด้วยลาภมีจีวรเป็นต้น สักการะ และ
กิตติศัพท์ โดยทำให้เป็นอารมณ์. บทว่า ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต ความว่า
ประกอบด้วยความรักที่เป็นเจ้าเรือน อันเป็นความเอ็นดูเทียมในผู้อื่น ซึ่ง-
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสหมายเอาว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้คลุกคลี
เพลิดเพลิน โศกเศร้า อยู่กับพระราชา ราชมหาอมาตย์ พราหมณ์ คฤหบดี
เดียรถีย์ และสาวกแห่งเดียรถีย์ทั้งหลาย เมื่อเขาสุข ก็สุขด้วย เมื่อเขาทุกข์
ก็ทุกข์ด้วย ย่อมถึงการประกอบตนในกิจการอันบังเกิดขึ้นแล้วของเขา ดังนี้.